วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฝรั่งฟันปลิ้นรวยหุ้นพ่วงค่าเงิน แบงก์ชาติเผยขนดอลลาร์กลับ 5.2 หมื่นล้าน

ตลาดทอง-ราคาทอง-ทองคำแท่ง-ร้านทองตลาดทอง-ร้านทอง-ทองคำแท่ง-goldตลาดทอง-ร้านทอง-ราคาทอง-goldตลาดทอง-ราคาทอง-gold

ไม่ขออะไรมาก..ขอเพียงโหวตให้กำลังใจคนทำเว็บ

ฝรั่งฟันปลิ้นรวยหุ้นพ่วงค่าเงิน แบงก์ชาติเผยขนดอลลาร์กลับ 5.2 หมื่นล้าน

 เปิดพอร์ตฝรั่งหลังเทขายหุ้นไทยพรวด งวดนี้กำไร 2 เด้งกว่า 30% ทั้งจากค่าเงินและราคาหุ้น   ใช้กลยุทธ์ขายหุ้นปุ๊บล็อกอัตราแลกเปลี่ยนขายเงินบาทออกทันที.... 



นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒน์กุล กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้  กล่าวว่า  ในช่วงที่ผ่านมาที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยออกมาหนักๆ พบว่า ทันทีที่ขายหุ้นออกมา ต่างชาติได้ล็อกอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯทันที หรืออีกนัยหนึ่งคือการสั่งขายเงินบาทออกมาทันที  จนทำให้ค่าเงินบาทในช่วง  1-2  วันนี้  อ่อนค่าลงมาก  ทั้งที่โดยปกติในทุกๆรอบที่ต่างชาติขายหุ้นออกมา จะโยกเงินไปพักไว้ที่ตลาดบอนด์หรือตลาดพันธบัตร แต่รอบนี้เห็นชัดมากว่าต่างชาติขายหุ้นแล้วขายเงินบาทออกมาทันที   ซึ่งถือเป็นการล็อกกำไรค่าเงินไว้ด้วย   เพราะหากต่างชาติประเมินว่าค่าเงินบาทมีโอกาสจะอ่อนค่าลงไปกว่านี้ ก็จะรีบขายเงินบาทออกมาก่อน "ตอนนี้ต่างชาติขายหุ้นออกมาทั้งเอเชีย  ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงแรงเกือบทั้งหมด แม้ในวันที่ 26 พ.ค. จะดีดตัวกลับขึ้นได้บ้าง   แต่คาดว่าต่างชาติจะยังคงขายหุ้นออกมาต่อ" 



ถล่มขายหุ้นทั่วกระดานเอเชีย



สาเหตุของการขายหุ้นทั่วเอเชียรอบนี้ของต่างชาติมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน ทั้งจากวิกฤติหนี้กรีซที่หากลุกลามอาจทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯและเป็นผลให้ค่าเงินเอเชีย   รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าลงไปด้วย นอกจากนี้ นโยบายการเงินในสหรัฐฯเอง ก็เริ่มจำกัดการนำเงินฝากของประชาชนออกไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง   ซึ่งกระทบต่อการนำเงินออกไปลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งยังมีการประเมินว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเริ่มอืดจากวิกฤติยุโรปและเศรษฐกิจจีนที่เป็นความหวังอาจลดความร้อนแรงลง  



นอกจากนี้  ยังมีการคาดการณ์ว่าไทยมีโอกาสขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 และ 3 ซึ่งอาจมีผลต่อการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ต่างชาติจึงจำเป็นต้องล็อกกำไรค่าเงินที่ระดับปัจจุบันนี้ไว้ก่อน 



ทั้งนี้ จากการรวมรวบตัวเลขการขายสุทธิของต่างชาติที่ได้ขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ถึง 26 พ.ค. (หลังประกาศภาวะฉุกเฉิน 7 เม.ย. เรื่อยมาจนเกิดจลาจลเผาบ้านเมืองและการประกาศกฎอัยการศึก) พบว่า ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยรวมทั้งสิ้น  67,066  ล้านบาท เมื่อหักจากยอดซื้อสะสมที่ต่างชาติเข้ามาซื้อช่วงต้นปี (22 ก.พ. ถึงต้น เม.ย.) รวม 58,900 ล้านบาทนั้น นั่นหมายความว่ายอดซื้อสุทธิสะสมที่ต่างชาติซื้อมาตั้งแต่ต้นปีนั้นได้ถูกเทขายออกมาหมดสิ้นแล้ว  ดังนั้น  หุ้นที่ต่างชาติขนออกมาขายหลังจากนี้ จะเป็นหุ้นที่ซื้อสะสมไว้ในปี 52 ที่มียอดซื้อสุทธิ 38,000 ล้านบาท 



กำไร 2 เด้งทั้งค่าเงินราคาหุ้น




และหากโฟกัสเจาะลึกถึงการเข้ามาซื้อหุ้นของต่างชาติในปี  52  ที่เข้ามาซื้อหุ้นไทยรอบใหญ่ ในช่วง มี.ค.-ส.ค.52 ต่างชาติซื้อสุทธิหนักสุดถึง 76,800 ล้านบาท ซึ่งช่วงนั้นต้นทุนค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ 35-35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหากนำหุ้นมาขายในช่วงนี้ที่ค่าบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 32.50 บาทนั้น ถือว่าต่างชาติได้กำไรค่าเงินร่วม 8-10% ยังไม่นับกำไรจากราคาหุ้นที่ต้นทุนเฉลี่ยตอนเข้ามาซื้อดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่  550-620  จุด  ซึ่งหมายถึงต่างชาติยังได้กำไรจากราคา



หุ้นอีกร่วม   20%   ที่ดัชนีล่าสุด 728 จุด




นางภรณี  ทองเย็น  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า น้ำหนักการขายหุ้นของต่างชาติอาจกดให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงไม่มากนักจากนี้ เพราะน่าจะมีแรงซื้อกลับของนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามาช่วยพยุงดัชนีไว้   โดยเฉพาะสถาบันที่เน้นการลงทุนระยะยาว  เพราะราคาหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาขณะนี้ก็ถือว่าพอสมควรแล้ว   น่าจะประคองตลาดที่ระดับนี้ไปได้  



ทั้งนี้  ตลาดหุ้นไทยวันที่  26  พ.ค.  ปิดที่  728.94 จุด เพิ่มขึ้น 7.65 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 21,777.62 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิต่อ 5,265.88 ล้านบาท  



ขนดอลลาร์กลับ 5.2 หมื่นล้าน



ด้านนางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายตลาดการเงิน กล่าวว่า ช่วงเดือน เม.ย.และ พ.ค.ที่ผ่านมา เงินทุนต่างชาติที่ออกจากตลาดหุ้นไทยจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ ถูกแลกกลับเป็นเงินดอลลาร์และไหลออกไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2553 จนถึงวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา 52,000 ล้านบาท จากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาเพื่อซื้อหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีกว่า 40,000 ล้านบาท เงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มากกว่าเงินที่ไหลเข้ามาซื้อหุ้น 12,000 ล้านบาท 



อย่างไรก็ตาม เงินทุนต่างประเทศในส่วนที่ลงทุนในตลาดพันธบัตร   และการลงทุนโดยตรงในช่วงที่ผ่านมา เช่นการเข้ามาซื้อธนาคารพาณิชย์   และการลงทุนในกิจการอื่นยังไม่ไหลออกไป   ขณะเดียวกันก็ยังคงมีเงินไหลเข้าต่อเนื่องและจำนวนค่อนข้างสูงจากการเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด   ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียอื่นๆ ที่ช่วงนี้มีเงินไหลออกต่อเนื่องเช่นกัน 



"สาเหตุของการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ   มาจากทั้งเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศเรา   และปัจจัยหลักคือความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจยุโรป   โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในกรีซและสเปน   ซึ่งมีแนวโน้มลุกลามไปยังประเทศอื่นในยุโรปได้ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือแม้จะเป็นเม็ดเงินถึง 750,000 ล้านยูโร แต่ยังมีเม็ดเงินที่เข้าไปช่วยเหลือได้ทันทีไม่มาก ทำให้เกิดความไม่แน่ใจ"  



ต้นทุนกู้ยืมพุ่งความเสี่ยงเพิ่ม



นางสุชาดายังกล่าวถึงต้นทุนการกู้ยืมของไทยในตลาดต่างประเทศว่า  ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนความเสี่ยงที่สูงขึ้น โดยผลตอบแทนของตราสารอนุพันธ์ที่มีหลักทรัพย์อื่นค้ำประกัน (ซีอีเอส) ของไทย ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 1.3% ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.เพิ่มขึ้น เป็น 1.7% แต่ยังกระทบการลงทุนของไทยไม่มาก   เพราะนักธุรกิจไทยกู้ยืมเงินต่างประเทศในอัตราที่ต่ำ 



น.ส.วงษ์วธู โพธิรัชต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าประมาณ 2% เทียบกับก่อนหน้าที่แข็งค่าประมาณ 3% ซึ่งเงินบาทอ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย  ทั้งนี้   เงินบาทอ่อนค่าเกิดจากปัญหาการขาดดุลงบประมาณของกลุ่มประเทศยุโรปและความเสี่ยงถือสินทรัพย์  (Risk  Aversion)   เพิ่มขึ้น   ทำให้นักลงทุนต่างชาติหันไปถือสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐฯมากขึ้น ประกอบกับในเอเชียมีปัญหาความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงไม่มาก เพราะแม้จะมีนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นเอาเงินออกไป แต่ผู้ส่งออกนำเข้าซื้อเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น   "ความผันผวนของเรายังน้อยกว่าคนอื่น โดยคนอื่นอยู่ที่ระดับ 5-6% โดยเฉพาะค่าเงินวอนของเกาหลีใต้และค่าเงินริงกิตมาเลเซียอ่อนค่ามากกว่าเงินบาทไทย  โดยของเราอ่อนค่าประมาณ 2-3%".

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณครับทุกท่าน ที่ให้ความสนใจใน www.Taradthong.com เว็บไซต์ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจในทองคำได้ใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาโอกาสในการทำกำไรในอนาคต ผมนายตลาดทองยินดีต้อนรับครับ อย่างแรกสุดขอให้ทุกท่านเข้าไปกดปุ่มสมัครสมาชิกพร้อมระบุ username ที่ต้องการพร้อมอีเมลล์